ใครจะไปเชื่อคัดโอลิมปิก 2012 !!! “ญี่ปุ่น” เคยทำอัปยศกับ “สาวไทย” มาแล้ว??

จบสิ้นไปด้วยความกังขาของคนไทยและผู้ชื่นชอบกีฬาวอลเลย์บอลทั่วโลก หลังจากความพ่ายแพ้ของทีมชาติวอลเลย์สาวไทยต่อทีมวอลเลย์สาวญี่ปุ่น หวุดหวิด 2-3 เซต  พร้อมๆ กับคำถามที่เกิดขึ้นถึงระบบการจัดการแข่งขันสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (เอฟไอวีบี) ที่ปล่อยให้ความไม่ปกติจากการตัดสินของกรรมการคนหนึ่งเกิดขึ้น และทุกคนกำลังมองไปถึงการสร้างบาดแผลที่เน่าเฟะของวงการกีฬาวอลเลย์บอลให้เกิดขึ้น และบาดแผลนี้จะคงอยู่กับประวัติศาสตร์กีฬาวอลเลย์บอลไปอีกนาน !!!

แน่นอนความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่ทั้งนักกีฬาวอลเลย์บอลไทยและคนไทยทั้งประเทศ คงไม่อาจยอมรับได้ แต่สิ่งที่ร้าวรานมากกว่านั้นถ้าทุกคนได้รู้ว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วกับการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิก 2012 รอบคัดเลือก เพื่อคัดหาทีมชาติเข้าไปร่วมกีฬาโอลิมปิกปี 2012 ทีมวอลเลย์สาวไทยก็เคยต้องประสบความเจ็บช้ำมาแล้วครั้งหนึ่ง จากการกระทำของสาวญี่ปุ่น??

 

โดยกรณีนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2555  เป็นการแข่งขันคู่สุดท้ายระหว่างทีมชาติญี่ปุ่น และทีมชาติเซอร์เบีย ซึ่งหากทีมชาติญี่ปุ่นสามารถเอาชนะเซอร์เบียได้  ทีมชาติไทยจะได้เข้าไปเล่นในโอลิมปิก ในฐานะทีมที่ได้อันดับดีที่สุดในเอเชีย (ที่ไม่ได้อันดับ 1 ใน 3) ทันที หรือหากทีมชาติเซอร์เบียชนะ ต้องชนะ 3-0 หรือ 3-1 เซตเท่านั้น แต่หากเซอร์เบียชนะ 3-2 เซต ทีมชาติไทยจะไม่ได้ไปเล่นโอลิมปิก ซึ่งถือเป็นกรณีเดียวที่จะเกิดขึ้นจากผลการแข่งขัน !!!!

ทั้งนี้ การแข่งขันเป็นไปอย่างสูสีคู่คี่ โดยญี่ปุ่นได้เซตแรกไปก่อน แต่เซอร์เบียมาตามตีเสมอ ในที่สุดต้องมาตัดสินกันถึงเซตที่ 5 ซึ่งผลปรากฏว่า เซอร์เบีย สามารถพลิกกลับมาเอาชนะญี่ปุ่น ไปได้ 3-2 เซต ด้วยสกอร์ 25-18, 21-25, 25-19, 21-25 และ 9-15   ผลการแข่งขันนี้ ทำให้เซอร์เบียรั้งอันดับ 3 ของตารางคะแนน คว้าสิทธิ์ไปลอนดอนเกมส์ทันที ส่วนญี่ปุ่น ได้อันดับที่ 4 ของตาราง  โดยมี 12 คะแนนเท่าทีมชาติไทย แต่คะแนนได้เสีย หรือค่า Ratio ดีกว่าไทย  หรือ  ผลต่างของเซตได้เสียและคะแนนที่ทำได้ในแต่ละเซตเป็นรองญี่ปุ่น  ทำให้ญี่ปุ่นคว้าสิทธิ์ทีมอันดับดีที่สุดของเอเชีย ได้ไปลอนดอนเกมส์ ส่วนทีมชาติไทยพลาดโอกาสสร้างประวัติศาสตร์คว้าตั๋วไปโอลิมปิกเป็นครั้งแรกอย่างน่าเสียดาย

เหตุการณ์ในครั้งนั้น นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ได้พูดถึงกรณีดังกล่าวว่า “ตนรู้สึกหวั่นใจอยู่แล้วว่า เกมคู่ญี่ปุ่น-เซอร์เบีย ที่แข่งขันหลังจากทีมชาติไทยเอาชนะคิวบาได้นั้นอาจจะเกิดการซูเอี๋ยขึ้น  ซึ่งตนก็ได้สอบถามความคิดเห็นเรื่องนี้จาก ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ คณะกรรมการบริหารฯ ด้วย  แต่ ร.ท.ชาญฤทธิ์ ก็มองว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการซูเอี๋ยกัน เพราะญี่ปุ่นมีสปิริตสูงมาก และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย แต่สุดท้าย เมื่อตนเห็นญี่ปุ่นเล่นไปได้ 2 เซต ก็รู้เลยว่าต้องทำใจแล้ว เพราะน่าจะเกิดเกมปาหี่ขึ้น และก็เป็นจริงดังที่คาด”

นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวด้วยว่า  หลังจากเกมคู่ญี่ปุ่น-เซอร์เบียจบลง และทีมชาติไทยฝันสลายไม่ได้ไปร่วมศึกโอลิมปิกเกมส์นั้น นายเหว่ย จิชง ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้โทรศัพท์มาแสดงความเสียใจกับ ร.ท.ชาญฤทธิ์ โดยระบุว่า “แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองที่รูปเกมจะออกมาเป็นแบบนี้   ถือเป็นรอยด่างของวงการวอลเลย์บอลระดับนานาชาติ  ซึ่งทางสหพันธ์จะหยิบยกเรื่องนี้เข้าที่ประชุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต”

 

ท้ายสุดวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 หรืออีก 4 ปีเต็มต่อมา ความเลวร้ายในวงการวอลเลย์บอลโลกก็บังเกิดอีกครั้ง และเป็นเหตุกับคู่กรณีเดิมคือ “ทีมวอลเลย์สาวไทย”  กับ “ ทีมวอลเลย์สาวญี่ปุ่น”  ???

ขอบคุณภาพจาก  ไทยรัฐออนไลน์, news.tlcthai.com